ทำไมต้องเลี้ยงไก่ไข่แบบปล่อย
ปัจจุบันแนวโน้มของผู้บริโภคยุคใหม่ทั่วโลกให้ความสำคัญกับการเลือกซื้อเนื้อ นม ไข่ ที่มาจากการจัดการเลี้ยงสัตว์ที่คำนึงถึงสวัสดิภาพสัตว์ เพราะทัศนคติของผู้บริโภคคือมนุษย์นำสัตว์มาเลี้ยงเป็นอาหารจำเป็นต้องปฏิบัติต่อสัตว์อย่างมีมนุษยธรรม มีความเมตตาต่อสัตว์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งไข่ไก่ที่รับประทานกันทุกวันนี้มาจากระบบการเลี้ยงไก่ไข่บนกรงตับ ซึ่งหมายถึงไก่ยืนโรงบนกรงลวดตลอดเวลาในพื้นที่จำกัดแคบ ๆ ซึ่งไก่ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ หรือไม่ได้แสดงพฤติกรรมตามธรรมชาติได้ เช่น การคุกฝุ่น การคุ้ยเขี่ย การไซร้ขน และ การไข่ในรัง เป็นต้นจากรายงานของ CWIF หรือ Compassion in Wold Farming Trust (2006) ศึกษาการเลี้ยงไก่ไข่บนกรงตับซึ่งมีจำนวนกว่า 400 ล้านตัว ในสหภาพยุโรป พบว่าการเลี้ยงไก่ไข่บนกรงตับ มีผลต่อสุขภาพไก่ไข่ คือ ทำให้กระดูกเปราะ แตกง่าย ในการเลี้ยงไก่อุตสาหกรรมจะเร่งส่งผลผลิตจากไก่ทำให้ใช้แคลเซี่ยมจากกระดูกและไม่ได้ออกกำลัง เท้าและเล็บผิดปกติ ข้อเข่า ข้อขาผิดรูป ดำเนินชีวิตด้วยความทรมาร
ดังนั้น สหภาพยุโรปได้รับฟังความคิดเห็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และมีการศึกษาข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ เศรษฐกิจ-สังคม สุขภาพของสาธารณะ และผลดี ผลเสีย ของการเลี้ยงไก่ไข่หลากหลายระบบ จนเป็นข้อยุติประกาศกฎหมายการเลี้ยงไก่ ตาม EC directive 1999/74/EC มีสาระสำคัญห้ามเลี้ยงไก่ไข่บนกรงตับ โดยมีผลบังคับใช้ 1 มกราคม 2555 เป็นต้นไป ห้าวต่าง ๆ จะไม่ซื้อไข่ไก่บนกรงตับต่อไป ส่วนประเทศพัฒนาแล้วหลายประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา หลายรัฐได้ผ่านร่างกฎหมายเกี่ยวกับการห้ามเลี้ยงไก่ไข่บนกรงตับแล้ว กำลังอยู่ขั้นตอนประกาศบังคับใช้ แม้จะยังไม่มีกฎหมายบังคับแต่ก็มีข้อกำหนดให้ติดฉลากไว้บนแผงไข่ว่ามาจากการเลี้ยงระบบใด เช่น non-cage barn gee ซึ่งเป็นการเลี้ยงแบบปล่อยในโรงเรือนไม่ได้ปล่อยให้ไก่ได้ออกมาพื้นที่ภายนอกคอก หรือ eco-egg, free-range egg, free-range organic egg เป็นต้น